เรียนรู้วิธีการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
ผู้ป่วยเบาหวานต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเลือกอาหารที่เหมาะสม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคไต โรคหัวใจ และปัญหาทางตา
ด้วยคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและสุขภาพดีได้
การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือแป้งสูงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้ร่างกายต้านทานอินซูลินมากขึ้น ส่งผลต่อการควบคุมเบาหวาน
การรับประทานอาหารในเวลาที่ไม่สม่ำเสมอส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
แนวทางการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
เน้นข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และแป้งจากธัญพืชเต็มเมล็ด ที่ช่วยควบคุมน้ำตาลเลือด
รับประทานปลา เนื้อไก่ ไข่ และถั่ว ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลให้คงที่
เพิ่มผักใบเขียวและผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เพื่อรับวิตามินและเกลือแร่
รับประทานอาหารในเวลาที่สม่ำเสมอ 3 มื้อหลัก 2-3 มื้อย่อย
ใช้หลักจานอาหาร 1/2 ผัก 1/4 โปรตีน 1/4 คาร์โบไฮเดรต
ดื่มน้ำสะอาด 8-10 แก้วต่อวัน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
ลดน้ำหนักส่วนเกินและรักษาน้ำหนักในระยะยาว
รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่เหนื่อยง่าย มีพลังงานตลอดวัน
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคไต และปัญหาการมองเห็น
คำตอบสำหรับคำถามที่ผู้ป่วยเบาหวานมักสงสัย
ได้ครับ แต่ควรเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น แอปเปิ้ล ส้ม ฝรั่ง และหลีกเลี่ยงผลไม้ที่หวานมาก เช่น ลิ้นจี่ ลำไย ทุเรียน ควรรับประทานในปริมาณพอดีและนับเป็นส่วนหนึ่งของคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหาร
แนะนำให้รับประทาน 3 มื้อหลักและ 2-3 มื้อย่อย เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ตลอดวัน ไม่ควรงดอาหารหรือรับประทานมื้อใหญ่เกินไป
ควรหลีกเลี่ยงอาหารหวาน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อาหารทอด อาหารแปรรูปสูง ขนมเค้ก คุกกี้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนและหลังอาหาร 2 ชั่วโมง เพื่อดูว่าอาหารใดมีผลต่อระดับน้ำตาล นอกจากนี้ควรจดบันทึกอาหารและอาการต่างๆ เพื่อติดตามผลลัพธ์
การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้ดีขึ้น ลดความต้านทานอินซูลิน และช่วยควบคุมน้ำหนัก ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน
รับคำแนะนำการรับประทานอาหารที่เหมาะสำหรับคุณ